วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เราเป็นอย่างไร...เราได้อย่างนั้น

ใครไม่เคยเป็นหนี้ย่อมไม่รู้หรอกว่า
การตกนรกทั้งเป็นนั่นให้ความรู้สึกอย่างไร
บางคนตัดสินใจชั่ววูบ ฆ่าตัวตายก็มี
บางคนตัดสินใจผิดพลาดลงหุบเหวนรก
บางคนก็ไม่ทำอะไรเลยยอมรับชะตากรรม(ยอมพ่ายแพ้)
บางคนหันหน้าสู้......
คุณจะเลือกเป็นใคร

ฆ่าตัวตายมีให้เห็นมากมาย มีทั้งสาปแช่ง กร่นด่าตามหลัง พ่อแม่พี่น้องไม่นับญาติ ตัดสินใจพลาด สู้แบบไม่คิด เอาง่าย ไว เฉพาะหน้า  กู้เงินมาโปะหนี้ ขายตัว ทำงานแบบรวยไว ค้ายา ปล้นจี้  ชิงทรัพย์ ลืมคิดไปว่า  มีเหตุย่อมมีผลเสมอ 

กู้เงินมาโปะดอกเบี้ยมากขึ้น ของเก่ายังเอาไม่รอด ของใหม่มันจะรอดได้อย่างไร  .ค้ายา ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ ทำผิดกฎหมาย  ก็ต้องรับผลของกฎหมาย...ขายตัว (ใช้ได้ทั้งชายและหญิง)  ความคิดเหล่านี้ล้วนเป็นความคิดชั่ววูบ ที่ผุดโผล่ขึ้นมาในดวงจิตแต่สติและสามัญสำนึกจะคอยตักเตือน และยับยั้งเสมอ  (โปรดฟังคำเตือนจากส่วนลึกในใจคุณ)

เมื่อฉันเป็นหนี้สติคอยเตือนฉันทุกย่างก้าวความรู้สึกกดดันทรมานเราตลอดเวลา คนดูถูก ตกต่ำ ไม่มีคนยอมรับ เจ็บปวด เสียใจ ผิดหวัง อยากกินเหล้าเมาสุราให้ลืมเสีย

สติบอก....อย่าทำ เงินหายาก งานหายาก ถ้าไม่มีสติพร้อมทำงานจะเอาแรงที่ไหนมาหาเงิน...หยุดเดี๋ยวนี้!!ทางออกมันผุดขึ้นมาทุกทางทั้งเลวและดี  แล้วแต่คุณจะเลือกทางใด.... 

คุณคือ คนกำหนดชะตาชีวิตคุณทั้งสิ้น ฉันเลือกไปตั้งสติในวัด เพราะเงียบ สงบ เจ้าหนี้ตามไม่ถูก ไม่มีคนรังควานความคิด สมุด ปากกาพร้อม รอคอยความคิดดีๆที่จะโผล่ขึ้นมา


แต่ในความเป็นจริง  ไอ้ความคิดดีๆๆน่ะ มันไม่โผล่ขึ้นมาหรอกน่ะ
ความคิดยุ่งเหยิงวกวนแต่คำว่า........
""" ทำยังไงดี...ทำยังไงดี""""
เมื่อได้นั่งสนทนาธรรมกับหลวงพ่อในวัด
"" โยมบุญโยมหมดแล้ว """
สติมาปัญญาเกิด ไปนั่งหลบมุมแล้วตีโจทย์ข้อนี้ให้แตก  บุญก็ไม่เคยสร้าง บาปก็ไม่เคยทำจริงหรือ????

บุญน่ะไม่สร้างเพิ่ม...จริง
บาปน่ะไม่เคยทำ......ไม่จริง
ใช่ไม่ผิดศีลห้าข้อจริง
แต่บาปบางอย่างเราก็ทำโดยไม่ยั้งคิด  เราใช้บุญเก่าตลอดเวลา
อะไรล่ะ...^^^อะไรหนอ...^^^^^

ไม่เคยตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เลย เถียงคำไม่ตกฟาก พ่อแม่สอนสั่ง โกรธเคือง ตอบแทนด้วยวาจาก้าวร้าว  ตอบแทนด้วยการกระทำให้ท่านร้องให้  ช้ำใจ เสียใจ ทุกข์ใจ  กล่าวหาว่าท่านรักลูกไม่เท่ากัน ทั้งๆในความเป็นจริง ท่านรักลูกทุกคนมากเท่าชีวิต แต่เลี้ยงดูไม่เหมือนกัน ตามลักษณะนิสัยต่างหากเล่า   เราเองต่างหากที่ไม่พิจารณาตนเอง..  บาปนี้หนักหนายิ่งกว่าใดๆอีก

เทวทัตจาบจ้วงพระพุทธเจ้า โทษนั่นหนักยิ่ง เรานั้นก็เช่นเดียวกันกรรมที่เกิดล้วนเกิดจากตัวเองทั้งสิ้น เมื่อคิดได้และได้คิด  ชีวิตก็เห็นทางสว่าง เสมือนแสงสว่างที่ปลายทางส่องชี้นำ ให้เห็นทางที่เราจะก้าวต่อไปในอนาคต

ธรรมส่องทางให้ฉัน แล้วฉันก็จะจัดการแก้ไขทุกอย่างด้วยความมุมานะ อดทน ไม่มีข้ออ้างในการรีรอ ไม่มีเงิน...ไม่มีเวลา...ไม่มีความพร้อม ไม่กล้าสู้หน้าพ่อแม่...กลัว..ฉันตัดสินใจทำทันที แม้ใจใจจะกลัวๆกล้าๆ  ไปกราบขอขมาพ่อ ปลดทุกข์ออกจากใจ....

พ่ออวยพร..ให้ฉันประสบความสำเร็จนับเป็นสิ่งยิ่งใหญ่เหลือคณนา และตั้งแต่วันนั้นฉันทำทุกอย่าง ที่จะตอบแทนบุพการีผู้ให้ชีวิตให้ความสุข ให้การดูแล ไม่ทำให้ช้ำใจ  เสียใจ ปรนนิบัติตอบแทนเต็มกำลัง

ถ้าคุณมีลูก  คุณเลี้ยงลูก  ทะนุถนอมลูกแค่ไหน  ทำกับพ่อแม่ให้ได้เท่านั้น....ทำได้มั้ย

นับตั้งแต่วันนั้น คิดทำสิ่งใดไม่มีอุปสรรค จะไปแห่งหนใดก็มีแต่คนโอบอุ้ม หยิบจับสิ่งใดได้เงินได้ทอง

สามปีให้หลังฉันหมดหนี้สิน   ชีวิตพบเจอแต่สิ่งดีๆ  ที่ไหลเข้าในชีวิตเหมือนสายน้ำ  เจอเนื้อคู่.....คู่ดี  ทำธุรกิจก็รุ่งเรือง

คุณล่ะ...ถ้าคุณยังติดขัด  มีอุปสรรคมากมายในชีวิต....ทำกิจการงานใดก็ล้มเหลว...เจอคู่ครองก็ผิดหวัง    เงินทองก็ขาดๆหายๆๆ
อย่ามองที่คนอื่น...ให้มองเข้าไปที่ใจ  ตัวตนของเรา  มองให้ลึกอย่างเป็นธรรม  เราเป็อย่างไร...เราได้อย่างนั้น

FORWARD LINE
Credit : Ramet Tanawangsri
ภาพ : https://i.ytimg.com
บทความคุณภาพจากเพจ "เรื่องดีๆมีข้อคิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น