วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้อดีของการมี SEX

เลิกวิ่ง เลิกขี่จักรยาน เลิกตีแบต เลิกเตะบอลได้แล้ว ...

ลองอ่านดูประโยชน์ของการมี SEXแล้วจะรู้เอง

1. เซ็กส์คือ การบำรุงความงาม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ขณะผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ เธอจะหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาปริมาณมาก ซึ่งทำให้เส้นผมเป็นเงางามและผิวหนังนุ่มนวล

2. เพศสัมพันธ์ที่อ่อนโยน และผ่อนคลาย ช่วยลดการอักเสบทางผิวหนัง เช่น สิว และผื่นต่าง ๆ ได้ เหงื่อที่ไหลออกมาเป็นตัวชะล้างรูขุมขน ทำให้ผิวหนังผ่องใส

3. เพศสัมพันธ์ ช่วยเผาผลาญ แคลอรี่ที่คุณกินเข้าไป ช่วงมื้อค่ำ อันโรแมนติก

4. เซ็กส์คือ การออกกำลังกาย ที่ปลอดภัยที่สุด มันทั้งช่วย ยืดเส้นยืดสาย และทำให้ กล้ามเนื้อตึงในทุก ๆ ส่วนของร่างกาย อีกทั้งน่าสนุกกว่า จ๊อกกิ้งหรือ ว่ายน้ำสัก 20 เที่ยว เป็นไหน ๆ แถมยังไม่ต้อง ใช้รองเท้ากีฬา แพง ๆ

5. เซ็กส์ช่วย ลดความตึงเครียด ได้ดี ยิ่งกิจกรรมทางเพศ ช่วยหลั่งสาร เอนดอร์ฟินส์ ในกระแสเลือด ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

6. มีเซ็กส์บ่อย ๆ คุณยิ่งได้รับ สารเคมีที่ชื่อ "ฟีโรโมนส์" มากยิ่งขึ้น

7. กลิ่นตัวที่ถูกขับออกมา ขณะมีความ ต้องการทางเพศ เป็น "น้ำหอม" ที่ช่วยกระตุ้น ให้เพศตรงข้าม คึกคักได้ อย่างเหลือเชื่อ

8. จูบกันทุกวัน ลดอาการฟันผุ การจูบ กระตุ้นน้ำลาย ให้ขับน้ำลายออกมา จึงช่วยชะล้างฟัน ของคุณให้สะอาด

9. เซ็กส์แก้ปวดหัว ตลอดกระบวนการ ทางเพศ จะช่วยผ่อนคลาย ความตึงเครียด ซึ่งไปปิดกั้น หลอดเลือด ในสมอง ไว้

10. ร่วมเพศบ่อย ๆ ช่วยแก้อาการ คัดจมูก เพราะเซ็กส์เป็นยา แอนตี้ฮิสตามีน จากธรรมชาติ แก้อาการแพ้ฝุ่น แพ้ละออง ได้ดี

11. เซ็กส์จะเป็น ยานอนหลับ ที่มีประสิทธิภาพ ดีกว่า Valium "แวเลี่ยม" หลายเท่า ถ้าคุณสามารถ มีเซ็กส์เกิน 5 ครั้งในหนึ่งคืน


มาทำความรู้จัก "พร้อมท์เพย์"

ดีเดย์ ที่เริ่มสมัครใช้ พร้อมท์เพย์ คือ 15 ก.ค.   การโอนจ่ายเงินของรัฐและประชาชนคนไทยเดินเข้าสู่นวัตกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์     เดือนหน้า ธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่งของรัฐ  จะเปิดให้ลงทะเบียน "พร้อมท์เพย์"  บริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ผ่านมือถือหรืออินเตอร์เน็ต   โดยใช้เพียงเลขบัตรประชาชน และ หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ   โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม การโอนข้ามเขต ในอัตรามหาโหดให้กับแบงก์ดังปัจจุบัน  ถ้าไม่เกิน 5,000 บาทโอนฟรี   ถ้าเกินแสนเสียจิ๊บๆ
 
บุคคลที่ควรจะต้องทำทันทีเป็นกลุ่มแรก คือ

1.ข้าราชการ, พนักงานของรัฐ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ

2.ผู้รับบำเหน็จ บำนาญ
 
3.ผู้รับค่าตอบแทนจากรัฐ ตามสิทธิที่รัฐจ่ายให้
 
4.ผู้ที่ประกอบการธุรกรรมกับรัฐ เช่น รับเหมาก่อสร้างกับรัฐ ฯลฯ
 
5.ผู้ที่ต้องรับเงินภาษีเงินได้ หรือภาษีอื่นๆ คืนจากรัฐ
   
ส่วนผู้ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องรับเงินจากรัฐ   ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใช้ระบบ พร้อมท์เพย์เดี๋ยวนี้ ก็ได้

สำหรับผู้ที่ไม่สมัคร พร้อมท์เพย์      ขอเตือนว่า เพราะสิ้นเดือน ต.ค.59 เป็นต้นไป   เงินหลวง, เงินรัฐ   จะไม่จ่ายให้ท่านอีกต่อไป
 
เพราะ ธนาคารแห่งประเทศไทย แจ้งให้ทำ ท่านไม่ทำ    แจ้งว่าจะเริ่มจ่ายเงินรัฐด้วยการโอนเงินให้ท่านผ่าน พร้อมท์เพย์ หากท่านยังเฉย ไม่ทำ
 
เมื่อรัฐไม่มีช่องทางใหม่นี้ ที่จะจ่ายเงินให้ท่านได้  รัฐก็จะรอจนกว่า ท่านจะสมัคร พร้อมท์เพย์  แล้วแจ้งให้รัฐทราบ

กว่ารัฐจะใช้เวลาตรวจสอบว่าท่านทำแล้วจริงๆ คงใช้เวลานาน     ถ้าพวกทำช้า ก็ยิ่งใช้เวลานานมากเข้าไปอีก

จะสมัครที่ธนาคารไหนดี..   ลองไปตรวจดูว่ารัฐจ่ายเงินเดือน จ่ายเงินต่างๆ  ส่งให้ท่านที่ธนาคารใด   บัญชีเลขที่เท่าไร    ให้ไปสมัคร พร้อมท์เพย์ ที่ธนาคารแห่งนั้น...

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ซึ้ง2ชั้น

มีตากะยายคู่นึง แต่งงานอยู่ด้วยกัน มานานหลาย.    
สิบปีแล้วไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง. แม้แต่ครั้งเดียว
ยาย มีกล่องเก็บของ. อยู่ใบหนึ่ง   และกำชับแกม.  ขอร้องตาว่าอย่าได้เปิดดู   หรือถามใดใดทั้งสิ้น ตาจึงไม่เคยปริปากถาม.เรื่องกล่องใบนั้นอีกเลย

วัน เวลาผ่านไป.    หลายสิบปี อยู่มาวันนึงยายป่วยมาก   ตาจึงพายายมา.    โรงพยาบาล
หมอ ลงความเห็นว่า   ยายคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน ยายจึงวานให้สามี กลับไปเอากล่องใบนั้นมาให้ยาย

ตากลับมาหา.      ยายพร้อมกล่องใบนั้น
ยาย เปิดกล่องออก   ภายในนั้นมี........ตุ๊กตาถักไหมพรม  พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง  (เกือบๆล้านได้)
ยายเล่าว่า      ในวันแต่งงานของตากะยาย     คุณย่าของยายได้สอนไว้ว่า     ครอบครัว.   สมรสเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องไว้ใจ มีความรักให้กัน  ให้อภัย และ     เข้าใจกัน โดยแนะนำเคล็ดลับว่า      เมื่อใดที่รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา หรือโกรธมากๆ ให้ถักตุ๊กตาไหมพรม  1   ตัวเก็บไว้เสมอ    ตาจึงก้มมองไป.   ในกล่องมีตุ๊กตาเพียง  3  ตัว    ตาเบือนหน้าไปอีกทาง.  เพื่อหลบหยดน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ .  ตารู้สึก ปลาบปลื้มน้ำใจที่ยายมีต่อ.   ตา. ยิ่งนัก

ชีวิตสมรสที่.   ยาวนาน 50 ปี มีตุ๊กตาไหมพรมเพียง 3 ตัว เท่านั้น
ที่แทน.  จำนวนครั้งที่.  ภรรยาโกรธ เคืองเขา  ตาปาดน้ำตาแล้วหันกลับมา
ยายจึงพูดต่อว่า "ตาคงแปลกใจกับ.  เงินก้อนนี้. สินะ"
ตาพยักหน้า.    รอฟังคำตอบ ยายบอกว่า...มัน    เป็นเงินที่ได้จากการ  ทยอยขายตุ๊กตาที่ฉันทำไว้   เวลาที่โกรธหรือโมโหแกตอนที่แกไปหา เมียน้อยแล้วไม่กลับบ้านไปทีละตัวๆ ...    จนได้เงินมาเป็นล้าน

ข้อดีของการร้อง Karaoke

1. การขับสาร Endorphins และสาร Oxytocin โดยสารนี้สองตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสุขและความรู้สึกสบาย และที่สำคัญสาร Oxytocin ยังสำคัญต่อสุภาพสตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดเป็นอย่างมากอีกด้วย

2. ช่วยเพิ่มความรู้ จากการศึกษาในหลายแห่ง พบว่า การร้องเพลงมักจะเพิ่ม IQ และสามารถปรับปรุงการทำงานของสมองให้ดีขึ้นด้วย

3. ช่วยให้อายุยืน จากการร่วมกันวิจัยของมหาวิทยาลัยเยล และ มาหวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าการร้องเพลงประสานเสียง จะช่วยทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีและอายุยืนขึ้น

4. ช่วยลดความดันโลหิต เพราะเสียงเพลงที่เบาๆ นุ่มสบายๆ จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดสงบและผ่อนคลาย

5. การร้องเพลงจะช่วยให้กระบังลมและกล้ามเนื้อช่วงซี่โครงของคุณขยาย และมันสามารถเสริมกล้ามเนื้อช่วงท้องได้อีกด้วย และการร้องเพลงจะช่วยให้ระบบหายใจคุณดีขึ้น



6. ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมของผู้อื่น เสียงเพลงจะช่วยทำให้เราสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ และทำให้เราสามารถวางตัวได้ถูกเมื่อเจอกับผู้อื่น

7. ทำให้ปอดแข็งแรงขึ้น เพราะการร้องเพลงออกเสียง จะช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจคุณดีขึ้นและทำให้ปอดแข็งแรง

8. สร้างความผูกพันในชุมชน มันจะช่วยทำให้คุณเข้ากับผู้อื่นในชุมชนได้ดีเป็นอย่างมาก

9. การร้องเพลงช่วยในการรักษาโรค พาร์กินสัน การร้องเพลงจะช่วยควบคุมอาการของโรคและเยียวยาได้ด้วย

10. สามารถช่วยให้ความจำคุณดีขึ้น เพราะการจำเนื้อเพลง มันเป็นการฝึกหน่วยความจำของคุณอย่างหนึ่ง

11. เพิ่มภูมิคุ้มกันตัวเอง การร้องเพลงจะช่วยลดความดันเลือด และความเครียดในแต่ละวันลง

12. เป็นกำลังใจให้กันและ
กัน โดยการปรบมือ จะร้องดี หรือจะ ร้องผิด ร้องถูก เสียงเพราะ หรือ เสียง กะละมังแตก ก็จะปรบมือให้กัน

ชรากถา

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ตอนอายุได้ 74 ปี เขียน "ชรากถา"  น่าคิด
        ---------------
1.อาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นส่วนตัวและเป็นอิสระ

2.ถือครองเงินฝากธนาคารและทรัพย์ไว้กับตัวเอง

3.อย่าไปคาดหวังว่าลูกเต้าจะดูแลตอนแก่

4.หาเพื่อนเพิ่มคบทุกวัย

5.อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น

6.อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตลูก

7.อย่าเอาความชรามาเป็นข้ออ้าง เพื่อเรียกร้องความเคารพนับถือและความสนใจ

8.ให้ฟังเสียงผู้อื่นแต่ให้วิเคราะห์และปฏิบัติตามที่คิดอย่างอิสระ
 
9.ให้สวดมนต์แต่อย่าร้องขอจากพระ

10.ข้อสุดท้ายอย่าเพิ่งตาย


  กฏของการใช้ชีวิตในวัยทองอย่างมีความสุข

1)อย่ากลัวความแก่

2)อย่าเสียใจที่แก่

3)รีบหาความสุขเมื่อยังมีความสามารถ

4)อย่ารอหาความสุขก่อนจะเสียดายภายหลัง

5)รีบไปเที่ยวตามสถานที่ๆ อยากไป

6)หาเวลาเจอเพื่อนเก่า

7)สังสรรค์กับเขาเพราะเวลาเหลือน้อย

8)เงินที่เก็บไว้ในธนาคาร ตายแล้วเอาไปไม่ได้

9)ใช้เงินหาความสุขเมื่อยังมีชีวิต

10)อยากกินอะไรที่ชอบก็กิน

11)หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

12)กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

13)การเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา

14)อย่าวิตกกลัวกับความเจ็บป่วย

15)ทุกคนต้องผ่านการเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา

16)ถ้าวิตกเรื่องแก่เจ็บตายแล้วมีความสุขก็ให้วิตกไปเถิด

17)รีบจัดการปัญหาเสียก่อนตาย

18)ปล่อยให้หมอดูแลสุขภาพ พระเจ้าดูแลชีวิต และตนเองดู แลอารมณ์

19)อย่ากังวลกับลูกหลาน พวกเขาช่วยตัวเองได้

20)สนใจดูแลสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น

21)สนใจดูแลคู่ชีวิตที่ชราด้วยกันให้มากขึ้น

22)เก็บเงินเกษียณไว้กับตัวเอง

23)พบเพื่อนเก่าให้บ่อยมากขึ้น เพราะเวลาเหลือน้อยลง

24)ยิ้มให้ตนเองและคนอื่นทุกวัน

25)ทำชีวิตให้มีความสุข

26)ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องให้ดังๆ ไปเลย

27)ความหวังสิ้นสุด ถ้าหยุดความเชื่อ

28)ความรักจะสิ้นสุด   ถ้าหยุดใส่ใจ  

29)ชีวิตจะสิ้นสุข ถ้าหยุดยิ้ม

30)มิตรภาพจะสิ้นสุด ถ้าหยุดแบ่งปัน...

ขอให้โชคดี มีอายุยั่งยืน

อย่าหลงตน อย่าลืมตัว

อยากให้ อ่าน ช้า ช้า สบายๆให้จบ   เมื่อตอนที่นก  ยังมีชีวิตอยู่..  มันจะกินมดเป็นอาหาร  แต่เมื่อมันตาย..  มันก็จะถูกมดกินเป็นอาหารเช่นกัน   ต้นไม้หนึ่งต้น  สามารถทำเป็นไม้ขีดไฟได้เป็นล้านๆก้าน  แต่ไม้ขีดไฟเพียงหนึ่งก้าน  ก็สามารถเผาต้นไม้ได้เป็นล้านๆต้นเช่นกัน   จงอย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่า เพราะหลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่   อย่ามองข้ามลูกค้ารายเล็ก   ไม่เห็นคุณค่าของพวกเขา  เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราก็เป็นได้    อย่าคิดว่าเราแข็งแรงไม่มีวันป่วย เพราะอายุยังน้อย  โลงศพไม่ได้มีไว้ใส่คนแก่แต่มีไว้ใส่คนตาย   อย่าคิดว่าฉันรวยใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย  สักวันเงินเพียง1พัน  อาจมีค่ามากมายในวันตกอับก็ได้   ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต    ใหญ่ได้ก็เล็กได้  รวยได้ก็จนได้  แข็งแรงได้ก็ป่วยได้  เกิดได้ก็ต้องตายได้  ทุกคนไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า  

ท่องจำให้ขึ้นใจ  "อย่าหลงตน อย่าลืมตัว"  และที่สำคัญ  "ข้าจะไม่ประมาท"  กับชีวิตอีกต่อไป..   จะยุ่งมากเพียงใดก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี   แม้ว่าบางครั้งติดต่อเพื่อนได้ยาก  แต่ก็ให้คิดถึงเสมอ..   อย่าเก็บไว้คนเดียวส่งให้คนที่รักและเพื่อนที่ดีด้วยนะ

เพราะมีกรรมร่วมกันมา

คัมภีร์กฎแห่งกรรม 3 ชาติ ได้บันทึกไว้ว่า “สามีภรรยา " มีกรรมร่วมกันมา ไม่ว่าจะกรรมดี หรือกรรมชั่ว ถ้าไม่มีกรรม ร่วมกันมา ก็ไม่อาจอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันได้ " บุตรธิดา " คือ หนี้ ไม่ว่าจะเป็นทวงหนี้ หรือชดใช้หนี้ ไม่มีหนี้ ไม่มาเกิดเป็น พ่อ แม่ ลูกกัน”

      ดังนั้น สามีภรรยา ที่มีกรรมดีร่วมกันมา ย่อมสมานสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ส่วนสามีภรรยา ที่มีกรรมชั่ว ร่วมกัน มาแต่อดีตชาติ ย่อม ทะเลาะเบาะแว้ง บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่อาจอยู่ร่วมกัน จนวันตาย

       ส่วน " บุตรธิดา " ที่มาทวงหนี้ เป็นลูกที่ไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจไม่ วายเว้น " บุตรธิดา " ที่มาใช้หนี้ จะสำรวมระวัง รู้คุณทดแทนคุณ ไม่กล้า ทำให้พ่อแม่ ชอกช้ำใจ ชาวโลก ทุกคน เกิดมาต่างหนีไม่พ้น พบ พราก สุข ทุกข์ เศร้า อภัย แค้น รัก ชัง นี่คือผลแห่งของกรรม ปลูกเหตุเช่นไร ย่อมได้ลิ้มผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะเหตุใด หรือ ผลใด ล้วนหนีไม่พ้น กฏแห่งกรรมทั้งสิ้น

       1. มาแทนคุณ ด้วยบุญในอดีต ที่ได้สั่งสมร่วมกันมา ด้วยพระคุณที่มีต่อกัน จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกกตัญญู” เขามาเพื่อที่จะทดแทนคุณ เป็นเด็กดี ฉลาด เชื่อฟัง เขาเหล่านี้ไม่มีทาง จะทำอะไรเสียหาย ให้พ่อแม่ต้อง กลัดกลุ้มกังวลใจ

       2. มาล้างแค้น ด้วยกรรมในอดีต ที่ได้สร้างร่วมกันมา จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เมื่อเติบใหญ่ก็จะกลายเป็นลูกล้างผลาญ ทำให้ครอบครัวล่มสลาย เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกทรพี” เขามาล้างแค้น ดังนั้น อย่าได้ผูกเวรไว้กับเขา เจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ภายนอก ยังพอป้องกันได้ แต่นี่เกิดมาเป็นลูกหลานในบ้านใน ตระกูลแล้ว จะทำอย่างไรดี ดังนั้น อย่าทำร้ายใคร อย่าฆ่าแกงกัน เพราะต่างคนต่างก็รักตัวกลัวตายเช่นกัน


       3. มาทวงหนี้ ชาติก่อนหนหลัง พ่อแม่เป็นหนี้ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน หนี้ที่ว่าคือ หนี้เงิน ไม่ใช่หนี้ชีวิต เขาจึงเกิดมาเพื่อทวงหนี้คืน หากเป็นหนี้กันน้อย เกิดมาให้ดูแลปีสองปีเขาก็ตาย เราเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อใช้หมด เขาก็ไป ต่อให้คุณรักเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยใส่ใจคุณ หากเป็นหนี้เขาเยอะ เลี้ยงจนเติบใหญ่ จบมหาวิทยาลัย เรียนจบวันนั้น ก็ตายวันนั้น เขาไม่อยู่รับใช้เรา เพราะมาทวงหนี้ หนี้หมดก็จากไป

       4. มาใช้หนี้ชาติก่อนหนหลัง เขาเป็นหนี้พ่อแม่ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน เมื่อเขาเกิดมาในชาตินี้ จึงต้องทำงาน หาเงิน เหน็ดเหนื่อย เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็อยู่ที่ว่า เป็นหนี้พ่อแม่มาก น้อยเพียงใด หากเป็นหนี้มาก ก็ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นอย่างดี หากเป็นหนี้พ่อแม่น้อย ก็เลี้ยงดูตามอัตภาพเหมือนที่เราเคยพบเห็น เลี้ยงพ่อแม่ประหนึ่งคนรับใช้ในบ้าน เพราะอะไร เพราะมาใช้หนี้กรรม ลูกประเภทนี้ แม้จะเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็หล่อเลี้ยงแค่กาย ไม่หล่อเลี้ยงจิตใจ เลี้ยงดูโดยปราศจากความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งต่างจากบุตรที่เกิดมา เพื่อทดแทนคุณ ประเภทนี้ไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงกาย ยังหล่อเลี้ยง จิตใจบุพการี ด้วย

     หลักธรรมในข้อนี้ มิใช่เพียงแค่ลูกหลาน ยังรวมทั้งญาติพี่น้อง และคนรอบข้าง ทั้งหลาย ที่เราได้รู้จัก และเคยได้อยู่ร่วมกันมา หากแต่เป็นเพราะ กรรมที่ก่อกันมา หนักหนา หรือ เบาบาง หากบุญคุณ ความแค้นหนักหนา ก็เกิดมาเป็นสามีภรรยา และลูกหลานพี่น้อง หากบุญคุณ และความแค้นเบาบาง ก็เกิดมาเป็นญาติสนิทมิตรสหาย คุณเดินซื้อของในตลาด อยู่ๆคนแปลกหน้า ก็มายิ้มให้คุณและ คุณก็ยิ้มตอบ ล้วนเป็นบุญกรรม แต่ชาติปางก่อน แต่ถ้าคุณรู้สึก ขัดหูขัดตา แถมไม่พอใจ ยังถมึงตา ใส่ฝ่ายตรงข้ามอีก นี่ก็ล้วนเป็นบุญกรรม แต่ชาติปางก่อนเมื่อเข้าใจในกฏแห่งกรรม เหล่านี้ เราจะได้ไม่ผูกกรรมด้านดำเพิ่ม แต่จงผูกกรรมด้านขาวซึ่งเป็นกรรมดีจะดีกว่า

       แล้วจะแก้ไขอย่างไร หากเราและลูกหลานผูกกรรมที่ ไม่ดีต่อกันมา แต่ปางก่อนแล้ว คำตอบก็คือ นำพาลูกหลานเข้าวัด หมั่นบำเพ็ญปฏิบัติธรรม ศึกษาพระธรรม เมื่อต่างฝ่ายต่างศึกษาธรรม ย่อมแปรกรรมร้าย ให้กลายเป็นกรรมดีได้ ย่อมคลายความจองจำ คับแค้นให้สลายคลายลงได้ เช่นนี้ที่เราเรียกว่า "เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต เปลี่ยนร้าย กลายเป็นดี”

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า...

๑. เกิดไฟใหม้ที่โรงอาบน้ำหญิง กลุ่มหญิงเปลือยล่อนจ้อนวิ่งหนีเอาตัวรอด ออกมาบนท้องถนน ตาแก่คนหนึ่งตะโกนฮาป่า บรรดาหญิงเปลือยนึกขึ้นได้ จึงพยายามใช้มือปกปิด แต่จุดล่อแหลมมีอยู่ หลายจุด จึงต่างจ้าละหวั่นทำอะไรไม่ถูก ตาแก่ตะโกนบอก
“ปิดใบหน้าก็พอ ข้างล่างมันเหมือนกันหมด”
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า ในภาวะฉุกเฉินไม่อาจทำอะไรให้รอบคอบทุกด้าน จับจุดสำคัญก็พอ

๒. สาวใหญ่แจ้งความกับตำรวจ..“ดิฉันเสียบกระเป๋าเงินไว้ในยกทรง ในรถไฟใต้ดิน เบียดเสียดจนถูกหนุ่มหล่อล้วงกระเป๋าไป”
- ตำรวจขมวดคิ้ว..“ล้วงในจุดล่อแหลมขนาดนี้ คุณไม่รู้สึกตัวเลยหรือ?”
- สาวใหญ่ค่อยตอบอย่างเหนียมอาย..“ก็ไม่นึกว่าเขาตั้งใจจะล้วงกระเป๋านี่ค๊ะ”
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การทำให้ลูกค้าตกอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มพอใจที่จะถูกรีดเงิน เป็นชั้นเชิงสูงสุดทางธุรกิจ

๓. บริษัทติดข้อความเหนือโถปัสสาวะ..
“ก้าวเข้าไปอีกนิด ใกล้ชิดอารยธรรม” ..แต่บนพื้นก็ไม่วายมีฉี่เรี่ยราดเฉอะแฉะ
- บริษัทศึกษาบทเรียนอย่างจริงจัง แล้วปรับแผนใหม่ดังนี้..
“ฉี่ไม่ตรงเป้าโถ..แสดงว่าของคุณอ่อน ฉี่เล็ดก่อนถึงโถ..แสดงว่าของคุณสั้น” ผลปรากฏว่าพื้นสะอาดกว่าเดิมเยอะทีเดียว
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ต้องเป็นรูปธรรม และแทงถูกใจดำ...

๔. วันหนึ่ง เลขานุการสาวตีหน้าขึงขังกับผู้จัดการ..
 “ผู้จัดการ ดิฉันตั้งท้องอ่ะ”
- ผู้จัดการได้ยินดังนั้น ยังคงก้มหน้าอ่านเอกสาร แล้วตีหน้าตายพูดว่า..“ผมทำหมันตั้งนานแล้ว”
- เลขานุการสาวตะลึงอยู่ชั่วขณะ แล้วยิ้มให้ผู้จัดการ..“ดิฉันพูดเล่นจ้ะ.!!”
- ผู้จัดการเงยหน้ามองเธอ..“ผมก็เหมือนกัน" ..พร้อมกับจิบน้ำชา
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า คนที่อยู่ในสังเวียนต้องไม่ตระหนกตกใจง่ายเมื่อเผชิญภาวะวิกฤต แม้มีปืนมาจ่อ ก็ตั้งตัวรับได้

๕. ชายหนุ่มไปขอลูกสาว ..ว่าที่พ่อตาให้แต่ละคนแนะนำตัว..
- ก.บอกว่า..“ผมมีเงิน ๑๐ ล้าน”
- ข.บอกว่า..“ผมมีคฤหาสน์หรูมูลค่า ๒๐ ล้าน”
- ว่าที่พ่อตาฟังแล้วรู้สึกพอใจ แล้วถาม ค.ว่ามีอะไร
- ค.ตอบ..“ผมไม่มีอะไรเลย ..มีแต่ลูกคนเดียว ที่อยู่ในท้องลูกสาวคุณ”
- ก. กับ ข. ได้ยินแล้ว ก็ลาจากไป
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า อำนาจแข่งขันไม่อยู่ที่กำลังทรัพย์ แต่อยู่ที่การจัดวางคนของเรา ในตำแหน่งที่สำคัญ

๖. เถ้าแก่เบื่อเมียลับเต็มทน เพราะ เมียลับเริ่มแก่ตัว + ขอค่าเลี้ยงดูก้อนใหญ่ เถ้าแก่คิดจะฆ่าปิดปาก แต่ CFO เสนออุบายให้เถ้าแก่ออกทุนแสน ส่งเมียลับไปเรียน Ex-MBA โดยอ้างเหตุผลเพื่อยกระดับวุฒิการศึกษา ในห้องเรียนล้วนเป็นนักศึกษาระดับเถ้าแก่ ต่างหลงเสน่ห์นักศึกษาสาวเมียลับคนนี้ ไม่ช้าไม่นานเมียลับก็ไม่ขออยู่กับเถ้าแก่เก่าแล้ว แถมยังให้เงินล้านแก่เถ้าแก่เก่าเป็นค่าปิดปากอีก
★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพของธุรกิจ วิธีที่ดีที่สุดคือย้อมแมวตกแต่ง แล้วแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน ไม่ใช่ถือเป็นซากทิ้งไป หรือรอให้ย่อยสลายเอง...
                   •••••

ฮักอีสาน


เกิดอีสานลูกอีสานเลือดอีสาน
ชีวิตจิตวิญญาณอีสานสิ้น
เอกลักษณ์มนต์ขลังพลังแผ่นดิน
หมอลำพิณแคนสะแนนสะออน

ฮักจารีตฮีตคองฮักท้องถิ่น
ฮักศิลป์ ฮักศาสตร์ ปราชญ์ คำสอน
ฮักหน่อแนวฮักบิดาฮักมารดร
ออนซอนชาติพันธุ์อีสานแฮง

อย่าให้ใครย่ำยีชี้อีสาน
สร้างร้าวฉานขุ่นข้องระหองระแหง
เลิกแบ่งเจ้าแบ่งข่อยคอยระแวง
มาฮักแพงปรองดองพี่น้องเฮา

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เพราะส่งไลน์ ทักทายกัน ทุกวันคืน

มนุษย์นี้ ที่แน่ ต้องแก่หนอ
อย่ารีรอ หาความสุข สนุกสนาน
ท่องเที่ยวไป ในที่สุข แสนสำราญ
พบปะกัน เพื่อนเก่า ตอนเข้าเรียน
ร่วมสังสรรค์ เฮฮา งานปาร์ตี้
ร่วมยินดี ปรีเปรม เกษมศานต์
เพราะเวลา เหลือน้อย ถอยตามกาล
ชั่วโมงยาม เลยลับ ไม่กลับมา
มีเงินทอง กองไว้ ตายสูญเปล่า
ควรจะเอา ไปใช้ ให้หรรษา
ขอชีวิต มีสุข ทุกทิวา
ก่อนจะลา จากไป ไม่หวนคืน
อยากอะไร ชอบอะไร ให้เอาเถิด
เจ็บ แก่ เกิด ป่วย ตาย ไม่อาจฝืน
ถ้าวิตก คิดไป ใจกล้ำกลืน
หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีอำลา
รีบจัดการ ปัญหา เสียก่อนตาย
อย่าปล่อยไว้ ให้ลูกหลาน ต้องกังขา
ให้คุณหมอ ดูแล ด้านกายา
ส่วนชะตา ฟ้าลิขิต ชีวิตเอง
ตัวเรานี้ มีอารมณ์ ให้สมจิต
คู่ชีวิต ชิดใกล้ ไม่ข่มเหง
ยิ้มสดใส ไร้ทุกข์ สุขครื้นเครง
อย่ากลัวเกรง หลานหญิงชาย ไม่สมหวัง
เงินเกษียณ เก็บไว้ อย่าให้เหงา
พบเพื่อนเก่า เล่าเรื่องก่อน ย้อนความหลัง
เวลาน้อย ปล่อยชีวา อย่าพวัง
ร้องให้ดัง ถ้าสุขใจ ร้องไปเลย
ชีวิตสุข หมดทุกข์ เพราะรอยยิ้ม
ใจกระหยิ่ม ยิ้มย่อง ดูผ่องใส
มิตรภาพ และรอยยิ้ม ปริ่มฤทัย

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Hydroplane คืออะไร

Hydroplane คืออะไร
อันตรายอย่างไร

หลายคนยังขับรถอย่างประมาท เมื่อฝนตก ผลก็คือลงไปอยู่ข้างทาง หรือไม่ก็ข้ามเลนไปจูบคันอื่นบ้าง จูบต้นไม้บ้าง เพราะความไม่รู้

ไฮโดรเพลน จะเกิดเมื่อมีน้ำขังบนถนน เนื่องจากฝนตก

และ รถมีความเร็วเกิน 80 กม.ต่อชม. น้ำจะแข็งเหมือนหินทำให้เกิดการ "เหิร น้ำ" หรือ ไฮโดรเพลน นั่นเอง

 มักจะเกิดเสมอเมื่อ

1)  ล้อด้านเดียววิ่งใปบนแอ่งน้ำ
2)  ดอกยางสึกมากเกินไปรีดน้ำไม่ทัน
3)  แตะเบรคอย่างรุนแรง
4)  หมุนพวงมาลัย อย่างแรง

... รถที่หนักมากกว่า จะเกิดง่ายกว่า

....ล้อที่มีหน้ายางเล็กกว่าจะเกิดง่ายกว่า

ฉะนั้น เมื่อฝนตก อย่าขับเกิน 80 กม. ต่อ ชม. นะครับ

ถึงช้าดีกว่าไปไม่ถึง หากต้องแข่งกับเวลา เพราะมีนัด ให้คิดว่า มาช้าดีกว่าไม่มา

เมื่อฝนตกเราไม่รู้ว่าจะเกิด
ไฮโดรเพลน เมื่อใด เพราะ

... เราไม่รู้ว่า น้ำขังอยู่ตรงไหน
... ดอกยางเรามีสภาพดีแค่ไหน
... จะมีอะไรมาทำให้เราต้องเบรคอย่างแรงเมื่อใด
... หรือมีอะไรทำให้เราต้องหักพวงมาลัยหลบอย่างแรงหรือไม่ อย่างไร

เวลาฝนตก ให้คิดถึง ไฮโดรเพลน และคนที่คอยอยู่ทางบ้านนะครับ

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ติดกรรมเพราะใช้ดอกไม้เวียน

อามิสบูชา เป็นการบูชาด้วยการใช้วัตถุในการ บูชาคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน ซึ่งอามิสบูชานั้นเป็นบุญด้วยเช่นกัน แต่เป็นบุญพระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า การบูชานั้นเป็นบุญที่ดี แต่พระพุทธองค์มิได้สรรเสริญว่าดีที่สุด แต่หากสรรเสริญว่าการปฏิบัติบูชานั้นดีที่สุด ดังนั้นอามิสบูชา ก็เป็นบุญเช่นกัน ทำได้ไม่ผิดอะไร แต่ก็ผิดติดกรรมจนได้ มีอยู่วันหนึ่งผมได้มีโอกาสไปไหว้พระยังวัด วัดหนึ่ง วัดนี้มีการจัดดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้ผู้คนใช้สักการะพระประธานในโบสถ์ ตอนนั้นผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ใช้ดอกไม้ที่ทางจัดเตรียมไว้ให้เช่นกันกับคนอื่นๆ จนเวลาล่วงมาถึงวันพฤหัสบดี ที่ 9 มิถุนายน 2559 เวลา 21.30 น. ผมไหว้พระสวดมนต์ แผ่เมตตา นั่งสมาธิ เป็นกิจวัตร ผมจะเริ่มด้วยการสวดมนต์ แผ่เมตตา ครั้นแล้วเมื่อถึงเวลานั่งสมาธิ ก็เกือบจะสี่ทุ่ม ผมนั่งสมาธิเวลาประมาณ 5 นาที จิตผมดิ่งนิ่งลึกมากลึกกว่าปกติมาก แล้วภาพที่เหมือนความฝันก็ปรากฏขึ้น ภาพที่ปรากฏนั้นเป็นภาพของพระผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของครูบาอาจารย์อีกที ท่านห่มจีวรสีกรัก ในลักษณะห่มคลุม มืออุ้มบาตร เท้าเปล่า มีแสงส่องออกมาจากเบื้องหลังท่าน ท่านเดินมาจากไกลๆแล้วค่อยๆขยับมาเรื่อยๆ จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ท่านยิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า

หลวงปู่:เป็นอย่างไรไอ้ลูกหลาน
ผม:สาธุกราบสักการะหลวงปู่ครับ
หลวงปู่:ไอ้ลูกหลาน ใช้ดอกไม้บูชาพระเนี่ยดีไหมว่ะ
ผม:ดีสิหลวงปู่ พระพุทธองค์ท่านบอกว่าดี แต่พระองค์ไม่ได้ทรงสรรเสริญ
หลวงปู่:เออนะ ดีๆๆๆ คนสมัยก่อนนะ เขาไปวัดไปวากัน เขาถือดอกไม้ ดอกหญ้าติดไม้ติดมือกันไปทุกคน ต่างจากสมัยนี้ที่ไปหากันข้างหน้า แล้วรู้ไหมว่ามันเป็นบาป
ผม:บาปอย่างไรหละหลวงปู่
หลวงปู่:ก็ไอ้ดอกไม้ที่เขาจัดไว้ตามวัดตามวานะ เขาหมุนเวียนเปลี่ยนกันใช้ ไม่รู้จักกี่คน ต่อกี่คน คนนั้นถวายพระที่ก็อธิษฐานกัน แล้วก็ไปเก็บมาอธิษฐานใหม่ นี่รับกรรมเขามาอีก ต่อๆไปกันเรื่อยๆ
ผม: เป็นกรรมอย่างไรหละหลวงปู่
หลวงปู่:ก็ดอกไม้เนี่ยนะพอมีคนไปวางต่อหน้าพระจนเต็มแล้ว ก็มีคนมาเก็บไปให้คนอื่นบูชาต่อ บางครั้งนะไปหยิบโดยไม่บอกไม่กล่าว นี่ติดกรรมอีกผิดศีลข้อสอง ข้อหาลักขโมย ไอ้คนไปหยิบก็ผิด คนไปซื้อมาไหว้ต่อก็ผิด คิดดูไอ้ลูกหลานมันเป็นบาปไหม
ผม:เป็นครับหลวงปู่ แล้วมันมีผลอย่างไหร่ครับ
หลวงปู่
หลวงปู่: ข้อ1.ทำให้ทรัพย์ติดขัด ทรัพย์ขาดมือ รักษาทรัพย์ไว้ไม่อยู่ ถูกคนคิดร้าย เพราะผิดศีล ข้อลักทรัพย์ ส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำผิด แล้วไปรับเอาคำอธิษฐานของผู้อื่นมา
2.ได้ผัวแก่เมียแก่ เพราะเป็นดอกไม้ที่นานแล้วเก่าแล้ว ดูอย่างนางอมิตดานั่นไง ได้ตาชูชกเป็นผัว เพราะได้ถวายดอกไม้เหี่ยว แด่พระพุทธเจ้า นั่นตัวอย่าง
3.ได้ผัวได้เมีย เป็นม่าย ไม่สมบูรณ์ เพราะดอกไม้ผ่านการถวายพระมาแล้ว



นี่บาปกรรมมันเป็นอย่างนี้นะ
ผม:บาปนี้มีผลร้ายแรงไหมหลวงปู่
หลวงปู่:มันไม่มีผลอะไรมากหากทำครั้งสองครั้ง หากทำบ่อยๆ ทำประจำ บาปก็จะให้ผลร้ายแรง ปู่บอกไม่ได้ว่ากี่ครั้ง บาปจึงจะส่งผล
ผม:หากคนที่ทำไปแล้วจะแก้ไขอย่างไรครับปู่
หลวงปู่:ให้นำดอกบัวเกินอายุหนึ่งดอก หรือเท่าที่จะหาได้ ไปขอขมาพระรัตนไตร ที่หน้าพระประธาน องค์ใหญ่ๆในโบสถ์ ทำบ่อยๆจะได้ไม่ติดค้างกัน
ผม:มีวิธีป้องกันไหมครับ เพราะไปที่วัดแล้วเขามีตระเตรียมไว้ให้
หลวงปู่:ก็ไอ้ที่อยู่ในกระเป๋าเอ็งไงหละ
ผม:เงินหรือครับ
หลวงปู่:ไม่ใช่
ผม:ถ้าอย่างนั้นคงจะเป็นแผ่นทองคำแท้
หลวงปู่:นั่นแหละ เวลาไปไหว้พระนะ ให้เอาปัจจัยใส่ตู้ หยิบธูปหยิบเทียนมา เพราะธูปเทียนจุดแล้วหมดไปไม่เอามาใช้หมุนใหม่ แล้วเอาแผ่นทองคำแท้ไปปิดที่องค์พระ หรือลูกนิมิตรในวัด
ผม: หลวงปู่จะบอกอะไรเพิ่มอีกไหมครับ
หลวงปู่:ก็ควรจะเตรียมจัดหาดอกไม้ธูปเทียน ไปกันเองจะได้บูญเยอะกว่า ปู่เห็นแล้วสงสาร ทำผิดกันเยอะ
ผม:สาธุ ผมจะนำคำสั่งสอนของปู่มาบอกแก่ญาติธรรม เพื่อให้เขาไม่ต้องทำกรรมเพิ่มนะหลวงปู่
หลวงปู่:ได้ไอ้ลูกหลาน ปู่ไปหละ
ผม:ขอกราบนมัสการลาหลวงปู่ขอให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรง ขอกราบน้อมส่งหลวงปู่
หลวงปู่:เอ่อๆ ไปหละ
การสนทนาของผมกับหลวงปู่ก็จบลงพร้อมกับภาพที่เลือนลางจางลงไป แล้วสติผมก็กลับคืนมา เหมือนคนตื่นนอน ผมกราบพระแผ่เมตตา อุทิศบุญ เป็นที่เรียบร้อย มองดูนาฬิกา เวลาล่วงเลยมาเกือบครึ่งชั่วโมง ผมว่าผมวูปไปแป๊บเดียว ผมขอนำ ความเมตตาของหลวงปู่ มาแนะนำแก่ญาติธรรมเพื่อไม่ให้เกิดกรรมติดตัวเพิ่ม อีกทั้งไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อต้านการใช้ดอกไม้เวียนแต่ประการใด โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจของท่านเองก็แล้วกัน

Cr : เพื่อนไลน์

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ลืมสร้างคนเฝ้ากำแพง

เมื่อชาวจีนโบราณต้องการอยู่อย่างปลอดภัยพวกเขาได้สร้างกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาโดยเชื่อว่าจะไม่มีมนุษย์หน้าไหนสามารถปีนมันได้เพราะสูงมาก แต่ทว่า..!

ภายในร้อยปีแรกหลังการสร้างกำแพงนั้นเมืองจีนกลับถูกรุกรานถึงสามครั้ง!

ในแต่ละครั้งกองทัพบกของศัตรูไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทะลวงกำแพงหรือปีนมันเลยแม้แต่น้อย..!

แต่ทว่าในทุกครั้งพวกเขาใช้วิธีติดสินบนยามเฝ้าประตูแล้วเข้าทางประตูนั่นแหละ.

แน่นอนว่าชาวจีนมัวแต่ห่วงเรื่องสร้างกำแพงจนลืมสร้างคนเฝ้ากำแพง..!

เพราะการสร้างคนต้องมาก่อนการสร้างทุกสิ่ง และนี่คือสิ่งที่คนหนุ่มสาวของพวกเราทุกวันนี้ต้องตระหนักให้มาก

นักบูรพาคดีคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า:ถ้าท่านต้องการทำลายอารยธรรมของประชาชาติหนึ่งประชาชาติใดมีขั้นตอนอยู่สามอย่างคือ:

1.ทำลายครอบครัว

2.ทำลายการศึกษา

3.ล้มบุคคลต้นแบบและตัวอย่างที่ดีงามของพวกเขา.

ความสุขจากสิ่งที่มี

ถ้ารู้สึก "เบื่องาน" เมื่อไหร่ ลองไปนั่งดู "คนมาสมัครงาน" หรือ "คนมานั่งรอสัมภาษณ์" ที่บริษัท จะเห็นเลยว่ามีคนอีกมากมายที่อยากได้ทำงานแบบที่เราทำอยู่

ถ้ารู้สึกว่า "ยังไม่รวย" ลองไปดูคนจนที่หาเช้ากินค่ำ คนที่ไม่มีเงินติดกระเป๋า คนที่ต้องนอนบ้านสังกะสีที่แทบกันลมกันฝนอะไรไม่ได้เลย

ถ้ารู้สึก "ไม่ค่อยมีความสุข" ลองเดินเข้าไปในโรงพยาบาล จะเห็นคนป่วยนอนให้น้ำเกลือ นอนให้ออกซิเจน เต็มไปหมด คนป่วยที่อยากแค่เดินได้และแข็งแรงเหมือนเรา

บางทีเราก็ "เผลอ" คิดว่าเรายัง "ขาด" อีกมากมาย ทำให้เราไม่มีความสุข

แต่จริงๆ แล้ว ยังมีคนอีกมากมายที่ขอแค่ "มี" เท่าที่เรามี เขาก็สุขใจที่สุดแล้ว

ดังนั้น
"อย่ามัวมองหาความสุขจากสิ่งที่ขาด จนพลาดความสุขจากสิ่งที่มี"

การออกกำลังกายดีอย่างไร

การออกกำลังกายอย่างไร ?

เบิร์นเกิน 3,500 กิโลแคลฯ ต่อสัปดาห์
เสี่ยงตายเร็ว
ปั่นจักรยานมากเกินนกเขาไม่ขัน..
แพทย์แนะเดินออกกำลังปลอดภัยกว่า

แพทย์ระบุเดินออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับ
ทุกเพศทุกวัย แนะเพิ่มควรออกกำลังสม่ำเสมอ
ได้ผลดีกว่าโหมหรือทบการเบิร์นแคลอรี
ช่วงปลายสัปดาห์ที่เสี่ยงเสียชีวิต

เตือนสิงห์นักปั่นจักรยานปั่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลคุณผู้ชายไร้สมรรถภาพทางเพศ

ไม่น่าเชื่อว่าความรู้ด้านการออกกำลังกายที่ได้ยินมาหลายปี อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกทั้งหมดอีกต่อไป

การออกกำลังบางประเภทก็เป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี ขณะที่การโหมออกกำลังกายมากเกินไปก็ทำให้เสียชีวิตได้  แล้วจะออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัยและเหมาะกับตัวเอง

รศ.นพ.ภาสกร วัธนธาดา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายจากโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มีคำอธิบายให้ กับหัวข้อการบรรยาย
"Running for Health and Performance Testing with VO2 Max"
ในงานประชุมวิชาการ่วมครั้งที่ 5 ประจำปี 2556


"Optimize the Quality of Life for all Generaltions"
เพื่อให้ทุกคนทุกวัยตั้งแต่แรกเกิดสู่วัยทำงานและวัยสูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ที่เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
โรงพยาบาลพญาไท และโรงพญาบาลเปาโล เมโมเรียล จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้

นพ.ภาสกร กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีเครื่องทุนแรงในการทำกิจกรรมประจำวันเยอะ เช่น ลิฟท์ รถ โทรศัพท์ ส่งผลให้การออกกำลังที่ควรจะเป็นลดลง ซึ่งนั่นหมายความว่าสุขภาพที่ดีที่ทุกคนถวิลหา ย่อมแทนที่ด้วยโรคหัวใจ ความดัน บาหวาน  ไขมันในเลือดและเส้นเลือด ขณะโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมและลำไส้ใหญ่ อาการซึมเศร้า รวมถึงอาการฟ่อของสมองส่วนความทรงจำที่จะลดลงก็สูญเสียไปด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย จาก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท บอกต่อว่า ฉะนั้น ทุกคนจึงควรเริ่มออกกำลังกายเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและอายุยืนนานในอนาคต

ถึงกระนั้น ใช่ว่าทุกคนจะออกกำลังกายได้เหมือนกันหมด หรือออกกำลังกายตามแฟชั่น  เพราะกายภาพ ความชอบ ทักษะ และเวลาของแต่ละคนไม่เหมือน ผู้ที่ต้องการออกกำลังกายจึงควรเลือกประเภทกีฬาที่เหมาะกับตัวเองและครอบครัว สามารถผนวกเข้ากับวิธีประจำวันได้อย่างราบรื่น เพื่อให้การออกกำลังกายทำได้อย่างสม่ำเสมอ

มีงานวิจัยเกี่ยวกับการออกกำลังกายระบุไว้ว่า ถ้าสมาชิกในครอบครัวไปออกกำลังกายด้วยกันเป็นประจำ อัตราการหยุดออกกำลังใน 6 เดือน จะมีเพียง 20-30%

แต่ถ้าบุคคลนั้นออกกำลังกายอยู่คนเดียวมีโอกาสหยุดออกกำลังสูงถึง 50% ในช่วงครึ่งปีแรก

"สิ่งที่หมอแนะนำได้คือการออกกำลังด้วยการเดิน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยที่สุดต่อการบาดเจ็บหรือเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และดีต่อผู้ต้องการออกกำลังกายทุกเพศทุกวัย

ทั้งนี้ การเดินที่ได้ผลดีที่สุดต่อหัวใจ สุขภาพ และยืดอายุการใช้งานของอวัยวะต่าง ๆ คือเดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และยังช่วยให้มวลกระดูกแข็งแรงมากขึ้น ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนกระดูกผุน้อยลง"

แพทย์จาก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท คนเดิมให้ความรู้ต่อว่า กีฬาแต่ละประเภทส่งผลต่อสุขภาพร่างกายไม่เท่ากัน เช่น

การวิ่งในด้านดีเป็นวิธีการออกกำลังที่ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลต่อหัวใจและร่างกายดี ช่วยเพิ่มมวลกระดูก แต่ถ้าวิ่งไม่ระวังจะทำให้เกิดการล้มบาดเจ็บที่ข้อเท้า หัวเข่า หรืออวัยวะอื่น ๆ รวมไปถึงโรคฮาร์ทแอทแทคหรือโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

ส่วนกีฬาว่ายน้ำดีต่อคนที่เป็นโรคหอบหืดเพราะมีความชื้นจากไอน้ำ แต่ไม่ควรลงว่ายในน้ำที่เย็นเกินไปเพราะจะทำให้หลอดลมตีบอาการแย่กว่าเดิม อีกทั้งการว่ายน้ำทำให้มวลกระดูกลดลงเนื่องจากไม่มีแรงกระแทก จึงควรสลับกับการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆเพื่อชดเชย

มาถึงแบดมินตันและเทนนิสให้ผลดีต่อร่างกายคล้าย ๆ กัน แต่เทนนิสจะดีกว่าในแง่การเคลื่อนไหวที่ผสมเอาแอโรบิกเข้าไปด้วย ในทางลบมักใช้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วนแขนและมือมากเกินไปจนอาจเกิดการอักเสบได้

ด้านการปั่นจักรยาน ผลในด้านลบของกีฬาชนิดนี้ผู้ออกกำลังต้องตระหนักให้มาก เพราะการปั่นเกิน 3 ชั่วโมง/อาทิตย์ ส่งผลให้ผู้ชายเสี่ยงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศถึง 2 เท่า เพราะอัณฑะและองคชาติถูกกดกระแทกแรง การบรรเทาต้องเจาะรูที่อานจักรยานให้อวัยวะเพศผู้ชายห้อยลง จะช่วยลดเสี่ยงนกเขาไม่ขันได้ 20-30%

การขี่จักรยานกับผู้หญิงก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน โดยทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบง่ายขึ้น และเกิดการเสียดสีอักเสบที่อวัยวะเพศหญิง

"กีฬาที่ดีที่สุดรองจากการเดินก็คือเล่นกอล์ฟ ภายในหนึ่งอาทิตย์ถ้าสามารถออกรอบได้สัก 2 รอบ เชื่อว่าอายุยืนเกิน 80 ปีแน่นอน เพราะการเดินเล่นกอล์ฟโดยไม่ใช้นั่งรถกอล์ฟประมาณ 4 ชั่วโมง แม้จะไม่หนัก แต่คิดเป็น 3 ใน 4 ของการเดิน 70,000 ก้าวต่ออาทิตย์ เพียงพอต่อการมีสุขภาพดีแล้ว"

นพ.ภาสกรกล่าว
ส่วนหลักการออกกำลังกายที่ถูกต้องว่า สำหรับผู้เลิกออกกำลังกายแล้วอยากกลับมา
สร้างความฟิตใหม่หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย ควรจะเริ่มต้นด้วยเดินหรือวิ่งให้ได้ระยะทาง 1.5 กิโล ในระยะเวลา10 นาที ปฏิบัติ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ถือว่าเพียงพอ


แล้วค่อย ๆ เพิ่มความเวลาและระยะทางขึ้นทีละ 10% เพื่อความเฟิร์ม โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ 30 นาทีต่อวันอย่างที่ได้รับข้อมูลกันมา เพราะร่างกายยังไม่พร้อม
"อย่างที่บอกในข้างต้น

ว่าการออกกำลังกายควรทำอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะได้ผลดีกว่าการไปโหมออกเพียง 1-2 วันต่ออาทิตย์ ซึ่งมีความเสียงต่อการเสียชีวิตจากการออกกำลังมากเกินไป

นอกจากนี้ การออกกำลังกายที่ดีไม่จำเป็นต้องชดเชยเป็นเท่าตัวในวันถัดไปหรือวันอื่นในสัปดาห์เดียวกันหากวันนี้ติดธุระไม่ได้ออกกำลัง

โดยงานศึกษาศิษย์เก่าของมหาวิทยาฮาร์วาร์ดระบุว่า
คนที่ออกกำลังกายมากเกิน  3,500 กิโลแคลอรีต่อสัปดาห์เสี่ยงหัวใจวายเสียชีวิตมากกว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างพอดี"

ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย จาก รพ.เอกชนชั้นนำของประเทศเตือน พร้อมบอกเคล็ดลับในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักทิ้งท้ายไว้ว่า

น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เทียบได้กับพลังงงาน 7,000-7,700 กิโลแคลอรี การลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยตามการวินิจฉัยของแพทย์ระบุไว้ว่าต้องไม่เกิน 2 กิโลกรัมต่อเดือน

ฉะนั้น หากวิ่งวันละครึ่งชั่วโมงต้องวิ่ง 30 วันถึงจะลดได้ 2 กิโลกรัม ถ้าหากเป็นการเดินต้องเดินวันละ 1 ชั่วโมงถึงจะได้ผลเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม หากเป็นแม่บ้าน การกวาด ถู ล้างจาน เช็ดกระจก เทียบเท่าได้กับการเดินออกกำลังกาย แต่ถ้าทำงานสวนปลูกต้นไม้ดายหญ้าจะเทียบเท่ากับการวิ่ง ในระยะเวลาที่เท่ากันจะให้ผลลัพธ์เดียวกัน.

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ถึงเมียสุดที่รัก!

ถึงเมียสุดที่รัก!
       ช่วงนี้พี่สังหรณ์ใจว่าจะมีอันตรายมาเยือน พี่ อาจจะถูกอุ้มหรือทำร้าย สาเหตุเนื่องมาจากเรื่องงาน พี่เป็นคนตรงไปตรงมา ทำให้ไปขัดผลประโยชน์ของเจ้านายและผู้มีอิทธิพล เพราะฉะนั้นพี่ต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา พี่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงภัยดังกล่าว ดังต่อไปนี้
๑.) ต้องกลับบ้านไม่เป็นเวลา อาจจะมืดๆค่ำๆหรือดึกๆ เพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่จะมาดักทำร้ายเพราะกลับตรงเวลาทุกวัน
๒.) ต้องปิดโทรศัพท์หรือไม่รับโทรศัพท์บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้ามรู้ความเคลื่อนไหว
๓.) ต้องมีการปลอมตัวบ้าง อาจจะมีกลิ่นน้ำหอมแปลกๆก็อย่าแปลกใจ หรืออาจเดินควงผู้หญิงเพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้เป็นที่สงสัย ก็อยากให้เข้าใจว่าเป็นการแสดงนะครับ
๔.) ถ้ามีผู้หญิงส่งไลน์หรือเฟสมาหาบ้าง นั้นเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยจากลูกน้องนะครับ อย่าเข้าใจเป็นอื่น
๕.) ถ้ามีผู้หญิงสวยๆแอดเข้ามาเป็นเพื่อนในไลน์ในเฟส แสดงว่าฝ่ายตรงข้ามส่งมาล้วงความลับครับ อย่าได้เข้าใจผิด
๖.) อาจจะไม่กลับบ้านบ้างทีละหลายวัน ก็ให้ทราบว่ากำลังลี้ภัย ไม่ต้องตามนะ จะกลับมาเอง
๗.) บางครั้งอาจจะมีการปล่อยข่าวว่าไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนหรือมีผู้หญิงมานั่งตักบ้าง! มันเป็นบทบาทสมมุติ
       หวังว่าสุดที่รักจะเข้าใจนะครับ..!

ขอโทษค่ะ...ดิฉันเป็นคนขี้ลืม

ดิฉัน เป็นอาจารย์หมอค่ะ เชี่ยวชาญพิเศษในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ หลังจากการประชุม บรรยายเสร็จสิ้น ฉันเดินออกจากโรงแรมและหากุญแจรถ แต่ฉันต้องตกใจมากเพราะกุญแจรถไม่อยู่ในกระเป๋าของดิฉัน ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องประชุมฯมองหากุญแจรถ ไม่พบเช่นกัน ฉับพลันฉันนึกขึ้นได้ ฉันต้องลืมทิ้งไว้ในรถแน่ เพราะสามีเคยเตือนดิฉันหลายครั้งแล้วว่า อย่าลืมคากุญแจไว้ที่รถนะ! ฉันยิ่งมั่นใจว่าการคาลูกกุญแจไว้ในรถน่าจะเป็นสาเหตุที่หาลูกกุญแจไม่เจอ

ฉับพลันฉันก็นึกได้ว่า รถต้องถูกขโมยขับไปเสียแล้ว

ทันที ทันใดนั้น ฉันก็รีบวิ่งไปที่จอดรถ ฉันคิดถูก ที่จอดรถว่างเปล่า! ฉันไม่รีรอ หยิบโทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจ บอกสถานที่ของเหตุการณ์ ลักษณะรถยนต์ สถานที่จอดรถ พร้อมสารภาพกับตำรวจว่า ฉันลืมดึงลูกกุญแจ. คาลูกกุญแจไว้ที่รถ และนั่นคือสาเหตุที่รถถูกขโมยขับออกไป

หลังจากนั้น ฉันโทรหาสามีด้วยความลำบากใจและรู้สึกผิด.ว่า...ฮัลโล ที่รัก! (พูดตะกุกตะกัก ไพเราะที่สุดแบบรู้สึกผิด) ฉันลืมกุญแจไว้ในรถ และรถถูกขโมยไปแล้ว

เงียบ..ไม่มีเสียงตอบ? ฉันคิดว่าเขาคงไม่ได้รับสายหรือไม่ก็คงช็อคที่รถหาย. ? และแล้วฉันก็ต้องตกใจ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากโทรศัพท์ว่า..: กูเป็นคนขับรถไปส่งมึงที่โรงแรมเอง !!!

แม้ไม่สุภาพแต่ฉันก็เงียบและพูดตอบอย่างขวยเขินว่า. กรุณามารับฉันหน่อยด้วยนะค่ะ?

เสียงสามีตะโกนใส่มาอีกครั้ง!!ว่า..กูจะรีบไปรับมึงให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้กูถูกตำรวจจับอยู่! ไม่รู้หมาตัวไหนโทรไปแจ้งว่ารถหาย ให้กูอธิบายให้ตำรวจเข้าใจก่อนว่า กูไม่ได้ขโมยรถมา  เวร ! !!!!!!

ทำไมกล้วยจึงเรียก Banana

Long time ago…. ประมาณว่านานมากแล้ว
มีฝรั่ง มาเที่ยวตลาดน้ำเมืองไทย
และเห็นผลไม้มากมาย ฝรั่งก็มาดูที่กล้วย ก่อนอื่น

แล้วฝรั่งถามแม่ค้าว่า “What is this?”
แม่ค้าไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงไม่ได้ตอบอะไร ฝรั่งเห็นดังนั้นจึงลองบีบดู
บังเอิญฝรั่งมือหนักจึงบีบกล้วยเละ แม่ค้าเห็นจึงร้องโวยวายว่า “แบนแน่ๆ”

ฝรั่งได้ฟังจีงร้องอ๋อแล้วก็บอกว่า “Oh! Banana”
หลังจากนั้นฝรั่งก็มาชี้ที่มังคุด และถามว่า “Is this mango?”
แม่ค้าชาวไทยกำลังโกรธที่ฝรั่งทำกล้วยเละ
เลยตอบไปว่า “แมงโกส้น teen นะสิ”

ฝรั่งก็ร้องอ๋อแล้วบอกว่า “Oh Mangosteen!”
แล้วฝรั่งก็เหลือบไปเห็นมะละกอ ก็เอามือที่เลอะกล้วยไปจับ
แล้วถามว่า “What is this?”
แม่ค้าเห็นดังนั้นก็ยัวะมากที่มะละกอเลอะเทอะ จึงคว้าเอาสากขึ้นมาจะตีฝรั่ง
แต่มีคนตะโกนห้ามแม่ค้าว่า “ป้าๆ อย่า”

ฝรั่งได้ยินดังนั้นจึงนึกว่ามีคนบอกชื่อมะละกอ จึงร้องว่า “OH! papaya“

จะไปอยู่ร้อยเอ็ด

แม่..นี่เธอฉันละเป็นทุกข์ใจแทนอีลูกสาวคนเล็กมันจริงจิ๊ง ไม่อยากให้มันแต่งงานเลย

เพื่อน..เอ้าลูกสาวมีผัวดีจะตาย ได้เลี้ยงหลานแก้เหงา

แม่...ก็อีนังลูกคนโตน่ะ มันแต่งงานแล้วก็ไปอยู่เมืองสามโคก มันก็ได้ลูก สามคน ส่วนคนที่สองไปอยู่สี่พระยา ก็ได้ลูก สี่คน คนที่สามไปอยู่แปดริ้วก็ได้ลูกแปดคน

เพื่อน..ดีนะได้ลูกตามชื่อเมืองเลย สงสัยชาติก่อนผัวเป็นเจ้าเมือง

แม่....ที่นี้อีคนสุดท้องนี่สิ มันแต่งงานแล้วจะไปอยู่ร้อยเอ็ด